ขอไฟล์คอนฟิก OpenVPN และใบรับรอง
เปิดแผงควบคุม Synology จากนั้นไปทีส่วน “เครือข่าย” และเปิดแท็บ “การเชื่อมต่อเครือข่าย”
เข้าทำการสร้างที่ สร้างโปรไฟล์ VPN
เลือก "OpenVPN (โดยการนำเข้าไฟล์ .ovpn)"
หากคุณพึ่งติดตั้ง "OpenVPN" และไม่มีตัวเลือกนี้ คลิกที่นี่
กรอกข้อมูลตามนี้::
ชื่อโปรไฟล์: เรียกใช้ได้ตามต้องการ
ชื่อผู้ใช้: ชื่อผู้ใช้ที่ได้จากขั้นตอน 1 แตกต่างจากชื่อผู้ใช้ Windscribe ของคุณ
รหัสผ่าน: รหัสผ่านจากขั้นตอน 1 แตกต่างจากรหัสผ่าน Windscribe ของคุณ
นำเข้าไฟล์ .ovpn: ไฟล์คอนฟิกที่คุณโหลดไว้ในขั้นตอน 1
เอกสารรับรอง CA: ปล่อยว่าง
ตรวจมาร์ค "ใช้ gateway ตั้งต้น หรือเครือข่ายรีโมท" และ "ทำการเชื่อมต่อใหม่เมื่อสัญญาณต่อ VPN หาย" จากนั้นคลิก “ใช้งาน”
คลิกขวาโปรไฟล์ที่พึ่งสร้าง และเลือก “เชื่อมต่อ”
มันควรขึ้นคำว่า “เชื่อมต่อแล้ว” หากการเชื่อมต่อสำเร็จ
ขอไฟล์คอนฟิก OpenVPN และใบรับรอง (สำหรับบัญชีโปร) และต้องใช้ ใบรับรอง CA และ TLS Auth Key ด้วย
เปิดแผงควบคุม Synology จากนั้นไปที่ส่วน "เครือข่าย" และเปิดแท็บ “การเชื่อมต่อเครือข่าย” ขึ้นมา
เข้าทำการสร้างที่ สร้างโปรไฟล์ VPN
เลือกไปที่ “OpenVPN”
เปิดไฟล์คอนฟิก .ovpn ที่โหลดไว้ในขั้นตอน 1 พร้อมกับโปรแกรม text editor แล้วหาบรรทัดที่เขียนว่า "รีโมท" แล้วคุณจะเห็น xx.windscribe.com, xx = ประเทศที่เลือก ส่วนนี้จะเป็น “ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์” ส่วนเลขที่ตามมานั้นคือ “Port”
กรอกข้อมูลตามนี้::
ชื่อโปรไฟล์: เรียกใช้ได้ตามต้องการ
ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์: ชื่อแม่ข่ายจากขั้นตอน 4
ชื่อผู้ใช้: ชื่อผู้ใช้ที่ได้จากขั้นตอน 1 แตกต่างจากชื่อผู้ใช้ Windscribe ของคุณ
รหัสผ่าน: รหัสผ่านจากขั้นตอน 1 แตกต่างจากรหัสผ่าน Windscribe ของคุณ
พอร์ท: พอร์ทจากขั้นตอน 4 หากไม่แน่ใจให้ใช้เลข 443
โปรโตคอล: ขึ้นอยู่กับการเลือกของคุณในขั้นตอน 1 ซึ่งอาจะเลือก UDP หรือ TCP ก็ได้ แต่หากไม่แน่ใจให้เลือก UDP
เอกสารรับรอง CA: ไฟล์เอกสาร ca.crt ที่คุณโหลดไว้ในขั้นตอน 1
ตรวจมาร์ค "ใช้ gateway ตั้งต้น หรือเครือข่ายรีโมท" และ "ทำการเชื่อมต่อใหม่เมื่อสัญญาณต่อ VPN หาย" จากนั้นคลิก “ใช้งาน”
ไปที่ส่วน “Terminal & SNMP” ในหน้าแผงควบคุม (อยู่ส่วนท้ายๆ) ตรวจมาร์ค "เปิด SSH Service" และคลิก “ใช้งาน”
หากคุณกำลังใช้ Windows คุณจำเป็นต้อง ดาวน์โหลด SSH client และหากคุณใช้ MacOS หรือ Linux ทำเพียงแค่เปิด Terminal ขึ้นมา
คัดลอกที่อยู่ IP ของ Synology NAS จากแถบที่อยู่ จากตั้งอย่างนี้เรากำลังใช้ 10.0.10.198 แต่ของคุณจะต่างออกไป
เปิด Putty (ที่คุณโหลดไว้ในขั้นตอน 8) และใส่ที่อยู่ IP ในช่อง “ชื่อแม่ข่าย” หากคุณกำลังใช้คอม MacOS หรือ Linux ทำเพียงป้อนคำสั่งนี้แทน (ต้องมั่นใจว่า IP ที่ใช่เป็นของจริง):
ssh 10.0.10.198
เมื่อถึงกำหนดให้ป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของ Synology NAS ของคุณ หากสำเร็จแล้ว คุณจะเห็นลักษณะดังรูปข้างล่าง ชื่อผู้ใช้ของฉันคือ "yegor" และชื่อแม่ข่ายของ NAS คือ "muffin" แต่ของคุณจะต่างออกไป (แต่ขอแนะนำให้ใช้คำว่า muffin เป็นชื่อแม่ข่าย เพราะมันเจ๋งดี)
ป้อนคำสั่งตามนี้:
cd /usr/syno/etc/synovpnclient/openvpn
จากนั้นป้อนคำสั่งนี้:
ls -l
คุณจะเห็น 3 ไฟล์ที่ลักษณะคล้ายอันข้างล่างแต่หมายเลขถัดจาด "ca_" และ"client_" จะต่างกัน
ป้อนคำสั่งตามนี้ และมั่นใจว่าได้เปลี่ยนหมายเลขตัวหนาซึ่งอยู่ถัดจาก "client_" ของ NAS:
sudo vi tls_auth_o1484176486.key
เตรียมรหัสผ่านแอดมินของ Synology เอาไว้ เพราะคุณต้องใช้ หากไม่มีการขอให้ใส่รหัสผ่านและเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ให้ลบ "sudo" ออกจากการป้อนคำสั่งนี้
คุณควรเห็นเป็นลักษณะนี้:
กดอักษร "i" บนแป้นพิมพ์ ด้านล่างจอฝั่งซ้ายมันจะขึ้นคำว่า "-- INSERT ---" ให้วางเนื้อหาของ ta.key จากไฟล์ .zip ที่คุณโหลดไว้ในขั้นตอน 1 คุณควรเปิดมันกับโปรแกรม text editor การวางจะใช้วิธีลัดไม่ได้ คุณต้องคลิกขวาและเลือกคำว่า วาง
คุณควรเห็นเป็นลักษณะนี้:
ทีนี้ให้กดคีย์ Esc ซึ่งจะพาคุณออกจากโหมด "-- INSERT --" จากนั้นพิมพ์อันนี้:
:wq!
และกด Enter แล้วคุณจะกลับมายังหน้าตัวพร้อมสั่ง
ป้อนคำสั่งนี้:
ls -l
ตอนนี้คุณจะเห็น 4 ไฟล์ หนึ่งในนั้นเป็นไฟล์ที่คุณพึ่งสร้าง
ที่นี้คุณจำเป็นแก้ไขไฟล์คอนฟิกหลักและใส่พารามิเตอร์เพิ่มเข้าไป ป้อนคำสั่งตามนี้ และต้องมั่นใจว่าได้เปลี่ยนหมายเลขตัวหนาที่อยู่ถัดจาก "client_" ของ NAS:
sudo vi client_o1484176486
คุณควรเห็นเป็นลักษณะนี้:
หากเกิดการล้มเหลว ให้ลบ "sudo" ออกจากคำสั่งตอนเริ่ม และทำซ้ำใหม่
กดอักษร "i" บนแป้นพิมพ์ ด้านล่างจอฝั่งซ้ายมันจะขึ้นคำว่า "-- INSERT ---" ให้วางส่วนที่คัดลอกไว้ส่วนท้ายของไฟล์ โปรดจำไว้ว่า "tls_auth_o1484176486.key" จะใช้ต่างกันกับ NAS ของคุณจึงจำเป็นต้องปรับแก้ไข การวางโดยวิธีลัดจะใช้ไม่ได้ผล ดังนั้นต้องคลิกขวาที่เม้าท์แล้ววางข้อความ
# EXTRA CONFIG GOES HERE
auth SHA512
cipher AES-256-GCM
verb 2
mute-replay-warnings
remote-cert-tls server
persist-key
persist-tun
tls-auth tls_auth_o1484176486.key 1
คุณจะเห็นเป็นลักษณะนี้ โปรดมั่นใจว่าหมายเลข “1” อยู่ตามหลัง tls_auth_o1484176486.key
ทีนี้ให้กดคีย์ Esc ซึ่งจะพาคุณออกจากโหมด "-- INSERT --" จากนั้นพิมพ์อันนี้:
:wq!
และกด Enter ถือเป็นอันเสร็จ!
ทีนี้กลับไปยังหน้าแผงควบคุม Synology ตรงส่วน “เครือข่าย” เลือกแท็บ “การเชื่อมต่อเครือข่าย” จากนั้นคลิกขวาที่โปรไฟล์ที่สร้างไว้ และเลือก “เชื่อมต่อ” หากทำตามขั้นตอน หลังจากประมาณ 2-3 นาที มันจะขึ้นคำว่า “เชื่อมต่อแล้ว” ด้านล่างโปรไฟล์
มี muffin
Synology DS115j VPN โปรแกรมสอน | Synology DS216se VPN โปรแกรมสอน | Synology DS416slim VPN โปรแกรมสอน | Synology RS217 VPN โปรแกรมสอน | Synology RS816 VPN โปรแกรมสอน | Synology DS416play VPN โปรแกรมสอน | Synology DS416 VPN โปรแกรมสอน | Synology DS216play VPN โปรแกรมสอน | Synology DS216 VPN โปรแกรมสอน | Synology DS116 VPN โปรแกรมสอน | Synology DS1515 VPN โปรแกรมสอน | Synology RS2416+ VPN โปรแกรมสอน | Synology RS815+ VPN โปรแกรมสอน | Synology DS916+ VPN โปรแกรมสอน | Synology DS716+II VPN โปรแกรมสอน | Synology DS216+II VPN โปรแกรมสอน | Synology DS2415+ VPN โปรแกรมสอน | Synology DS1815+ VPN โปรแกรมสอน | Synology DS1515+ VPN โปรแกรมสอน | Synology FS3017 VPN โปรแกรมสอน | Synology RS3617xs+ VPN โปรแกรมสอน | Synology RS3617RPxs VPN โปรแกรมสอน | Synology RS3617xs VPN โปรแกรมสอน | Synology RS18016xs+ VPN โปรแกรมสอน | Synology RC18015xs+ VPN โปรแกรมสอน | Synology DS3617xs VPN โปรแกรมสอน